4 ขั้นตอนสู่ความเชื่อที่มั่นคง

โพสต์ พฤษภาคม 16, 2018 โดย Robert Wieland ใน ความเชื่อ

แด่เพื่อนๆ ที่รักของ “การเรียกอาหารประจำวัน”

คนที่จะได้รับ “ความเชื่อที่เต็มเปี่ยม” (หรือ “ความมั่นใจที่เต็มล้นว่าความหวังจะกลายเป็นความจริงได้ในที่สุด” หรือ ความเชื่อที่มั่นคง) ดั่งที่เปาโลได้เขียนไว้ในจดหมายถึงพวกฮีบรูเป็นอย่างไร (ฮีบรู 10:22, 6:11)  จะเป็นการดีถ้าเราไม่ถูกครอบงำโดยกลัวว่าเราจะไม่ได้รับความรอด และในทางเดียวกัน เรามีไหวพริบมากพอที่จะตระหนักได้ว่า ในวันสุดท้ายนี้ "หลายคน" จะมาหาพระคริสต์และหวังว่าจะได้เข้าสู่อาณาจักรของพระองค์แล้วพระองค์จะตรัสกับเขาทั้งหลายว่า "เราไม่เคยรู้จักเจ้าเลย" (มัทธิว 7:23)

เราจะทำให้ปัญหาสำคัญระหว่างสิ่งที่เป็นจริงและสิ่งที่เป็นเท็จสมดุลได้อย่างไร เพียงแค่คำเทศนาของศิษยาภิบาลยังคงไม่เพียงพอ เรารู้ดีว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจ ดังนั้นเราจึงต้องเดินอย่างระมัดระวัง

ให้เรามาเรียนรู้กับ 4 ขั้นตอนสู่ความเชื่อที่มั่นคง

ขั้นตอนที่ 1 จงเชื่อ แม้จะมีคนเป็นพันล้านที่ต้องแก้ปัญหา พระบิดาทรงห่วงใยท่านเหมือนว่าท่านเป็นเพียงมนุษย์คนเดียวในโลก (ดู มัทธิว 10:29-31)  จงเข้ามาต่อหน้าพระพักตร์ของพระเจ้าและพูดคุยกับพระองค์เหมือนว่าพระองค์ทรงเป็นพ่อของท่าน เช่นเดียวกับที่พระเยซูทรงกระทำ (มัทธิว 6:6)

ขั้นตอนที่ 2 จงเชื่อความจริงข้อนี้ว่าเป็นข่าวประเสริฐ พระบิดาทรงต้องการให้ท่านได้รับความรอดนิรันดร์ และพระบุตรทรง “ประทานพระองค์เองเพื่อเป็นค่าไถ่สำหรับทุกคน” รวมถึงตัวท่านด้วย (1 ทิโมธี 2:3-6)  พระองค์ทรงทำงานอย่างสัตย์ซื่อ นั่นหมายความว่าทางเดียวที่ท่านจะสูญเสียหรือไม่ได้รับความรอด คือ การขัดขวางต่อต้านและไม่ยอมรับพระประสงค์ของพระบิดาบนสวรรค์ของท่าน เหมือนดั่งเอซาวที่มีสิทธิบุตรหัวปีเป็นผู้ที่ได้รับมรดกแต่กลับไม่เห็นคุณค่าและได้ขายมันเสีย

ขั้นตอนที่ 3 จงเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงไม่ทิ้งท่าน ซึ่งหมายความว่าอย่าไว้ใจตัวเอง ท่านไม่ต้องกลัวว่าพระเจ้าจะทรงหันเสียจากท่านหรือละทิ้งท่าน แต่จงกลัวว่าท่านจะลืมพระเจ้าและออกห่างจากพระองค์ พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะ "จับท่าน" ด้วย “มือขวา” ของท่าน (อิสยาห์ 41:13) ท่านเป็นเหมือนเด็กที่นิสัยเสียและต่อต้านพระองค์เพื่ออกจากพระหัตถ์ของพระองค์ ฉะนั้นจงเลือกที่จะให้พระองค์ทรงจับท่านไว้

ขั้นตอนที่ 4 จงเข้าใกล้ ดังที่ว่า“ความเชื่อที่เต็มเปี่ยม” เป็นของท่านแล้ว "ในพระคริสต์" เช่นเดียวกับเอซาวที่มีสิทธิบุตรหัวปี (ปฐมกาล 25; ฮีบรู 12:16)  พระคัมภีร์ได้กล่าวไว้ว่า “ให้เราเข้าไปใกล้ด้วยใจจริง” (ฮีบรู 10:22) ซึ่งหมายความว่า จงซื่อสัตย์ เหล่าทูตสวรรค์และพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่สามารถทำให้ท่านเป็นคนซื่อสัตย์ได้ถ้าคุณเลือกที่จะไม่เป็น การตัดสินใจเป็นของท่านเอง

ซาตานจะจารึกไว้ในใจของท่านเป็นพัน ๆ สิ่งที่ต้องทำแทนที่จะ "เข้าใกล้" พระเจ้า เมื่อท่านมาใกล้ชิดกับพระเจ้า ปล่อยวางให้พระวิญญาณบริสุทธิ์บอกท่านเกี่ยวกับสิ่งที่พระเยซูคริสต์กำลังทรงทำเพื่อท่าน จงขอบคุณพระเยซู ขอให้เรายังคงยึดมั่นในความหวังที่จะประกาศรับใช้นั้นโดยไม่หวั่นไหว เพราะว่าพระองค์ผู้ทรงประทานพระสัญญานั้นทรงสัตย์ซื่อ (ฮีบรู 10:23) พระองค์จะทรงปลดปล่อยบรรดาคนเหล่านั้นที่ตกเป็นทาสมาตลอดชีวิตเนื่องจากความกลัวตาย (ฮีบรู 2:15)

Dear Friends of “Dial Daily Bread,”

Just how does one get this most precious “full assurance of faith” (or “full assurance of hope unto the end”) that Hebrews speaks of (10:22; 6:11)? It would be nice if we were not constantly hounded by fear lest we won’t be saved at last. And on the other hand we have enough common sense to realize that “many” in the Last Day will come up to Christ expecting entrance into His kingdom and He must say, “I never knew you” (Matt. 7:23).

How do we “balance” this important issue of true versus false assurance? Just having our pastor tell us we’re okay is not enough. Realizing that nothing could be more critical to understand aright, we tread softly:

(1) Although there are billions who must settle this issue, the Father being infinite is concerned about you as if you were the only person on earth (see Matt. 10:29-31). Come into His presence and address Him as your personal heavenly Father, just as Jesus did (6:6). This is step #1--believe it.

(2) The Father wants you to be saved eternally, and His Son “gave Himself a ransom for all,” which means--including you (1 Tim. 2:3-6). He did His job faithfully. It follows that the only way you can end up lost is to impede, resist, reject the will of your heavenly Father, and of course, of Christ. In other words, do as Esau did, the man who had the birthright already but who “despised” it and “sold” it. This is step #2--believe this truth that is such good news.

(3) This will mean that you do not trust yourself; your fear will not be that the Lord may turn away from you; your fear will be that you may forget Him. He has promised to “hold” you by “your right hand” (Isa. 41:13). You can be like a spoiled, rebellious child and wriggle yourself out of His hand. Choose to let Him hold you. Realize, you’re lost if you don’t. Step #3--believe it.

(4) It follows that “the full assurance of faith” is already yours “in Christ,” as surely as Esau had the birthright (Gen. 25:34; Heb. 12:16). As our scripture says, “draw near with a true heart” (10:22). That is, simply be honest. All the angels in heaven plus the Holy Spirit can’t make you honest if you choose not to be. The decision is yours. Step #4--“draw near.”

The devil will flash into your mind a thousand things to do instead of that. As you “draw near” let the Holy Spirit convict you of what Christ is right now doing for you. Thank Him! “Hold fast the profession of [faith] without wavering.”  “He who  promised is faithful”  (10:23), so He will deliver you from the “fear of death” which “all [your] lifetime” has kept you in “bondage” (2:15).

--Robert J. Wieland