ความเชื่อของพระเยซู (จาก"แบบแผนแห่งพระพร")

โพสต์ มีนาคม 22, 2023 โดย Sabrina Reedy ใน ความเชื่อ

พระเยซูถูกข่มเหงเพราะพระองค์ทรงประกาศว่าพระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้า ซึ่งมีกล่าวในหนังสือดังข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้

และนี่คือความเชื่อเดียวที่ทำให้เรารอด

เหตุผลหลักประการหนึ่งที่ซาตานได้ต่อสู้อย่างหนักเพื่อปกปิดความจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพระคริสต์กับพระบิดา เป็นเพราะมันส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อวิธีที่เราสัมพันธ์กับพระบิดา พระเจ้าได้ทรงเปิดเผยในพระวจนะของพระองค์ว่าความรอดของเราขึ้นอยู่กับการที่เรามี “ความเชื่อของพระเยซู

กาลาเทีย 2:16 (Thai KJV) ก็ยังรู้ว่าไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมได้โดยการกระทำแห่งพระราชบัญญัติ แต่โดยความเชื่อแห่งพระเยซูคริสต์ คือพวกเราเองก็ได้เชื่อในพระเยซูคริสต์แล้ว เพื่อพวกเราจะได้เป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อแห่งพระคริสต์ และไม่ใช่โดยการกระทำแห่งพระราชบัญญัติ เพราะว่าโดยการกระทำแห่งพระราชบัญญัตินั้น ‘ไม่มีเนื้อหนังใด ๆ จะเป็นคนชอบธรรมได้เลย’

โรม 3:21-22แต่เดี๋ยวนี้ความชอบธรรมของพระเจ้านั้นปรากฏนอกเหนือธรรมบัญญัติ ความชอบธรรมดังกล่าวก็ได้รับการยืนยันจากหมวดธรรมบัญญัติและพวกผู้เผยพระวจนะ คือความชอบธรรมของพระเจ้า ซึ่งปรากฏโดยความเชื่อใน[แห่ง]พระเยซูคริสต์แก่ทุกคนที่เชื่อ โดยไม่ทรงถือว่าเขาแตกต่างกัน

ฟิลิปปี 3:9และจะได้เห็นว่าข้าพเจ้าอยู่ในพระองค์ ไม่มีความชอบธรรมที่ได้มาจากธรรมบัญญัติ มีแต่ที่ได้มาโดยความเชื่อใน[ของ]พระคริสต์ คือความชอบธรรมที่มาจากพระเจ้าโดยความเชื่อ

วิวรณ์ 14:12นี่แหละคือความทรหดอดทนที่พวกธรรมิกชนจะต้องมี คือพวกที่ถือรักษาพระบัญญัติของพระเจ้า และจงรักภักดีต่อพระเยซูการแปลนี้ไม่ดี นี่คือข้อเดียวกันในฉบับ KJV:

นี่คือความอดทนของพวกวิสุทธิชน นี่คือคนทั้งหลายที่รักษาบรรดาพระบัญญัติของพระเจ้า และความเชื่อนั้นของพระเยซูไว้

เราจะเห็นได้ว่าทำไมซาตานไม่ต้องการให้เราเข้าใจความเชื่อที่พระเยซูทรงมี ซึ่งคือความเชื่อที่พระองค์ทรงปรารถนาจะประทานแก่เรา มันยังสูญหายไปในการแปลหลายฉบับ  ความเชื่อที่พระเยซูทรงมีคือความเชื่อที่พระองค์ทรงมีในพระบิดา ความเชื่อของพระเยซูในพระบิดาทำให้เรารักและวางใจในพระเจ้าและต้องการทำตามพระบัญญัติของพระองค์ ความเชื่อนี้ของพระเยซูในพระบิดา มารซาตานไม่ต้องการให้เราได้รับ เพราะมันนำไปสู่ ความชอบธรรม และชีวิตที่นิรันดร์อย่างแน่นอน

แล้ว “ความเชื่อของพระเยซู” คืออะไร คำตอบคือ มันเป็นความไว้วางใจ ความชื่นชมยินดี และความสุขใจอย่างเต็มที่ในการทำตามพระประสงค์ของพระบิดาสม่ำเสมอ

ยอห์น 5:30เราจะทำสิ่งใดตามใจไม่ได้ เราได้ยินอย่างไรเราก็พิพากษาอย่างนั้น และการพิพากษาของเราก็ยุติธรรม เพราะเราไม่ได้มุ่งที่จะทำตามใจของเราเอง แต่ตามพระประสงค์ของผู้พระบิดาทรงใช้เรามา

ยอห์น 12:49-50 เพราะเราไม่ได้กล่าวตามใจเราเอง แต่พระบิดาผู้ทรงใช้เรามาเป็นผู้บัญชาเราว่าจะกล่าวอะไรหรือพูดอะไร เรารู้ว่าพระบัญญัติของพระองค์นั้นเป็นชีวิตนิรันดร์ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราพูดนั้น เราก็พูดตามที่พระบิดาทรงบอกเรา”

ยอห์น 14:10 “… คำซึ่งเรากล่าวกับพวกท่านนั้น เราไม่ได้กล่าวตามใจชอบ แต่พระบิดาผู้สถิตอยู่ในเราทรงทำพระราชกิจของพระองค

ยอห์น 6:38เพราะว่าเราลงมาจากสวรรค์ ไม่ใช่เพื่อทำตามความประสงค์ของเราเอง แต่เพื่อทำตามพระประสงค์ของผู้ทรงใช้เรามา

ยอห์น 7:16-18 คำสอนของเราไม่ใช่ของเราเอง แต่เป็นของผู้ทรงใช้เรามา ถ้าใครตั้งใจประพฤติตามพระประสงค์ของพระองค์ คนนั้นก็จะรู้ว่าคำสอนนี้มาจากพระเจ้าหรือว่าเราพูดตามใจชอบเอง ใครที่พูดตามใจชอบเองย่อมแสวงหาเกียรติสำหรับตนเอง แต่คนที่แสวงหาเกียรติให้ผู้ที่ใช้ตนมา คนนั้นเป็นคนจริง ไม่มีอธรรมในตัวเขาเลย

ให้สังเกตความแตกต่างโดยตรงระหว่างความเชื่อของพระเยซูกับวิธีที่ซาตานดำเนินการ ซึ่งมีกล่าวในหนังสือดังข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้

ยอห์น 8:44พวกท่านมาจากพ่อของท่านคือมาร และท่านอยากจะทำตามความปรารถนาของพ่อ มันเป็นฆาตกรตั้งแต่เริ่มแรกและไม่ได้ตั้งอยู่ในสัจจะ เพราะมันไม่มีสัจจะ เมื่อมันพูดเท็จมันก็พูดตามสันดานของมันเอง [มันกล่าวตามใจมันเอง] เพราะมันเป็นผู้มุสา และเป็นพ่อของการมุสา

พระเจ้าทรงเป็นแหล่งที่มาแห่งความจริงเพียงแหล่งเดียว ซึ่งพระองค์ทรงประทานแก่เราโดยผ่านทางพระบุตรของพระองค์ แต่ซาตานปฏิเสธแบบแผนของพระเจ้านี้ มันเริ่มที่จะพูด จากแหล่งที่มาของตัวมันเอง/มันกล่าวตามใจมันเอง ซึ่งสามารถสร้างได้เฉพาะสิ่งที่อยู่นอกกรอบแห่งความจริงเท่านั้น ดังนั้นมันจึงกลายเป็นพ่อของการมุสา ตั้งแต่วินาทีนั้นมาจนถึงตอนนี้ ซาตานพูดจากตัวมันเอง แสวงหาความรุ่งโรจน์ของตัวเอง ไม่มีความชอบธรรมและไม่มีความจริงในตัวมัน มันยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมชายและหญิงว่าพวกเขาสามารถพูดจากตัวเองได้เช่นกัน และสร้างความจริงและความชอบธรรมนอกเหนือจากพระเจ้า ความคิดนี้ตรงข้ามกับความเชื่อของพระเยซูโดยตรง

ความเชื่อของพระเยซูคือการรู้ว่าจากตัวเราเองเราไม่สามารถทำความดี ไม่ทำความจริง ไม่ทำชีวิตได้เอง แต่ความประเสริฐทั้งปวงล้วนมาจากแหล่งกำเนิดที่แท้จริง เท่านั้น นั่นคือพระบิดา และเนื่องจากพระเยซูทรงเป็นช่องทางที่กำหนดไว้สำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหมด เราได้รับทุกสิ่งจากพระบิดา โดยผ่านทางพระบุตรของพระองค์ ความดีที่เราเห็นบนโลกนี้เกิดจากการที่เราตอบสนองต่อพระวิญญาณของพระคริสต์

การเข้าใจแบบแผนของพระเจ้าและความเป็นจริงของความสัมพันธ์แหล่งกำเนิด/ช่องทางนี้ในชีวิตของเราเองเป็นหนทางเดียวที่เราจะยอมรับว่าเราไม่มีอำนาจในการช่วยตัวเองให้พ้นจากความเป็นทาสของบาปได้ และมาหาพระเยซูเพื่อรับเอาชีวิตแห่งชัยชนะที่พระบิดาทรงประทานให้โดยพระองค์

เอเฟซัส 1:3 จงถวายสรรเสริญแด่พระเจ้า พระบิดาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ผู้ทรงโปรดประทานพรฝ่ายวิญญาณแก่เราทุก ๆ ประการในสวรรคสถานโดยพระคริสต์


https://fatheroflove-thailand.com/book/view/blueprint-of-blessing-thai