ท่านไม่มีเพราะไม่ได้ขอ
โพสต์ พฤศจิกายน 03, 2021 โดย Sabrina Reedy ใน คำพยาน
See the original post on Facebook in English
"... ท่านไม่มีเพราะไม่ได้ขอ" ยากอบ 4:2
เมื่อรถของพวกเราทั้งหกคนมาถึงที่เลคลูอิส เป็นช่วงเวลาสิบโมงเช้าในวันธรรมดา รถก็เต็มแล้ว พวกเราขับรถวนเวียนที่จอดรถเพื่อหันรถกลับอย่างเดียว "ที่จอดรถแน่นทุกแถวเลย" สามีของฉันมองออกไปข้างนอกรถและถามเจ้าหน้าที่ว่า มีทางไหนบ้างที่พวกเราสามารถไปที่ทะเลสาบได้ และเธอก็ตอบพวกเราว่า "พวกคุณจะต้องนั่งรถท่องเที่ยวไปรับ-ไปส่งเพื่อไปที่นั่น" ดังนั้นพวกเราจึงขับรถกลับไปยังที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (ลงเขาไป 3 กม.) เพื่อเก็บรถ แล้วก็เดินออกไปสอบถามข้อมูลเรื่องรถ จึงทราบว่า รถรับ-ส่งจะต้องจองไว้ล่วงหน้าก่อน และจะไม่มีรถให้บริการไปจนถึงเวลาบ่ายโมง พวกเราสามารถเดินบนถนนขึ้นไปได้โดยใช้เวลาเป็นชั่วโมง... และคิดว่าพวกเราจะต้องหมดแรงก่อนจะขึ้นเขาแน่ ๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่ทางที่ดีนัก พวกเราก็ถามหาอูเบอร์หรือคนขับรถไปรับไปส่งส่วนตัว แต่ก็ไม่สามารถพาพวกเราไปที่ทะเลสาบได้ พวกเราจึงได้แต่อธิษฐานขอทูลอ้อนวอนจากพระเจ้า พวกเราเชื่อว่าหากพระเจ้าทรงพึงประสงค์ที่จะอวยพระพรให้เราได้เห็นถึงการทรงสร้างที่งดงามของพระองค์ พระองค์จะทรงช่วยพวกเราไป ณ ที่นั่น พวกเราทูลขอสติปัญญาว่าจะต้องดำเนินการต่อไปอย่างไร หลังจากการอธิษฐาน สามีของฉันก็พูดขึ้นว่า "ให้พวกเราลองไปถามคนที่อยู่แถวที่จอดรถก่อนดีไหมและดูว่ามีใครบ้างที่สามารถพาพวกเราไปยังที่นั่นได้ พวกเราสามารถจ่ายเงินให้เธอหรือเขาได้" และออกเดินทางไปกับวิลลี่เพื่อนของพวกเรา
ฉันรู้สึกข้องใจทันทีทันใด และคิดว่าคงไม่มีใครอยากจะพาพวกเราขึ้นไปหากพวกเขาไม่มีที่ที่จะจอดรถ... แต่ฉันก็เอาความสงสัยในใจออกไปทันที และเลือกที่จะเชื่อและวางใจในพระเจ้าว่าพระองค์จะทรงนำพวกเขาในพันธกิจของพวกเขา ฉันยังคงอธิษฐานเรื่อย ๆ ในที่สุดฉันก็พบรถรับ-ส่งอีกครั้งในขณะพวกเขาวนไปรอบ ๆ ที่จอดรถ คำตอบที่พวกเราได้กลับมาก็คือ "ขออภัยครับ/ค่ะ ที่นั่งรถไม่เพียงพอสำหรับพวกคุณจริง ๆ" ฯลฯ จากนั้นมัลคอล์มก็กล่าวว่า "เอาล่ะ เราต้องหารถตู้แต่อย่างเดียวแล้ว ที่นั่งจึงจะเพียงพอสำหรับเราทุกคนทั้งหกคน" ชั่วครู่ขณะหนึ่ง มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังขับรถตู้สีเทาคันใหญ่มายังที่จอดรถและที่นั่งในรถก็ว่างเปล่า พอมัลคอล์มเห็นเข้า เขาก็พูดขึ้นมาว่า "รถตู้คันนั้นนั่นแหล่ะคือความหวังของเรา” และพวกเขาก็รีบออกไปยังที่จอดรถและเดินไปถามเธอตรงที่จุดที่เธอจอด
ฉันก็ตามเขาไปอย่างช้า ๆ พร้อมกับคำอธิษฐานในใจว่าพระเจ้าลูกเชื่อมั่นว่าพระองค์จะทรงช่วยพวกเรา (ฉันขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงประทานสามีที่เป็นมิตรหรือเข้ากับคนได้ง่ายมากกว่าฉัน) ในขณะที่พวกเรามาถึงที่จอดรถของเธอ เธอกำลังคุยโทรศัพท์ในระหว่างนั่งอยู่ในรถ ดังนั้นพวกเราจึงต้องรอไปก่อน หลังจากที่เธอวางสายโทรศัพท์แล้ว เธอก็จ้องมองมายังพวกเรา แล้วพวกเขาก็โบกมือให้เธอ และเธอก็ยิ้มพร้อมกับลงออกมาจากรถ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าทึ่งและเซอร์ไพรส์มาก มัลคอล์มก็อธิบายถึงปัญหาของเราให้เธอฟังและสิ่งที่เราอยากขอให้เธอช่วยเหลือ ด้วยความประหลาดใจ เธอตอบตกลงที่จะพาพวกเราไปที่ทะเลสาบอย่างง่ายดายและไม่ลังเล ก่อนหน้านี้เธอและสามีเธอไปถึงที่ทะเลสาบแล้ว แต่เธอไม่สามารถหาตำแหน่งจอดรถได้ เธอก็เลยขับรถวนกลับมายัง ณ จุดที่จอดรถที่นี่ และปล่อยให้สามีของเธอเดินเที่ยวชม ถ่ายรูปที่ทะเลสาบไปคนเดียวก่อน พวกเขาไม่ได้พักอยู่ห่างไกลจากที่นี่เท่าไรและเพิ่งมาเยี่ยมเยียนได้ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นเอง ดังนั้น เธอยังบอกกับพวกเราอีกว่ามันไม่ใช่ปัญหาเลยที่จะพาพวกเราไปที่ทะเลสาบ แต่ด้วยความเมตตาและความเต็มใจของเธอต่อพวกเรา ทำให้ฉันรู้สึกถึงพระพรอย่างท่วมท้น ฉันได้แต่อธิษฐานเผื่อเธอในใจว่า “พระบิดาเจ้าข้า ลูกอยากขอให้พระองค์ ทรงโปรดอวยพรเธอสำหรับคุณงามความดีของเธอ และทรงโปรดประทานที่จอดรถให้เธอเมื่อพวกเราไปถึงที่นั่น”
พวกเราก็โบกมือให้เพื่อน ๆ ทุกคนที่ปีนขึ้นเขาและพวกเราก็มีความสุขอย่างเพลิดเพลินในบทสนทนาในขณะที่เธอกำลังขับรถพาพวกเราไป ด้วยบทสนทนาทำให้พวกเราทราบว่าเธอและสามีของเธอก็มาทำพันธกิจเช่นกัน และเธอก็รู้สึกตื่นเต้นที่พบเจอผู้ที่มีความเชื่อเหมือนกัน เมื่อเราไปถึง ณ ตำแหน่งจอดรถ มันดูเหมือนเจ้าหน้าที่จะโบกมือให้พวกเราเหมือนครั้งก่อนว่าที่จอดมันรถเต็มแล้ว แต่ช่างน่าทึ่งมาก เจ้าหน้าที่กลับบอกพวกเราว่า มีที่ว่างให้จอดรถอยู่ที่หนึ่ง และก็พาพวกเราตรงไปยังจุดนั้น พวกเราก็เริ่มหัวเราะอย่างมีความสุข และเพื่อนใหม่ของเราก็รู้สึกน่าเหลือเชื่อเช่นกัน “ดูสิ พระเจ้าช่างแสนดี พระองค์ทรงประทานสิ่ง ๆ นี้เพื่ออวยพระพรพวกเรา อาเมน) แล้วสามีของเธอก็มายังจุดที่พวกเราจอดรถ ด้วยความไม่รู้เลยว่าพวกเราเป็นใคร ทำไมถึงอยู่ในรถของเขา และก็ยิ้มแล้วถามภรรยาด้วยความอยากรู้เกี่ยวกับตัวพวกเรา พวกเราก็ได้แบ่งปันคำพยาน ถ่ายรูปด้วยกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อซึ่งกันและกัน และได้อธิษฐานร่วมกันเพื่อที่จะขอการทรงนำจากพระเจ้าและอวยพระพรเราต่อไป
พระเจ้าทรงสัตย์ซื่ออย่างมาก อย่างไรก็ดี ความเชื่อของเราก็ยังมีน้อยมากเหมือนกัน เป็นการทดสอบที่สามารถทำให้เราหงุดหงิดหรืออดกลั้นไม่ได้จริง ๆ เมื่อบางอย่างไม่ได้เป็นไปตามทางที่พวกเราคาดหวัง แต่ถ้าพวกเราได้ที่จอดรถตั้งแต่ต้นแล้ว พวกเราก็คงไม่ได้ประสบกับประสบการณ์ที่น่ามหัศจารย์เช่นนี้ที่ทำให้วันของเรานั้นดูวิเศษกว่า พวกเราก็ล้มเหลวในการที่จะจัดหาเองแต่ขอทูลพระเจ้าในการทรงจัดหาให้แทน พวกเราไม่สามารถนำพาตัวพวกเราเองให้ได้รับของขวัญที่ง่าย ๆ อย่างนี้ดั่งเช่น คนแปลกหน้าที่ใจดีคนนี้ การช่วยเหลือของเธอในการพาพวกเราไปยังจุดหมาย และที่จอดรถ พวกเราได้รับการย้ำเตือนว่าถ้าสิ่งไหนที่เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับพวกเราที่จะไปสักที่หนึ่ง หากพวกเราอธิษฐานขอทูลวิงวอนจากพระองค์ พระองค์จะทรงนำพาพวกเราไปที่จุดหมายนั่นเอง ไม่มีอะไรที่ยากเกินไปสำหรับพระเจ้า
"เพราะฉะนั้น ถ้าพวกท่านเองผู้เป็นคนบาปยังรู้จักให้ของดีแก่ลูกของตน ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์จะประทานสิ่งดีแก่พวกที่ขอต่อพระองค์" มัทธิว 7:11
"ข้าพระองค์จะตรึกตรองถึงความยิ่งใหญ่ในศักดิ์ศรีอันสูงส่งของพระองค์ และตรึกตรองถึงการอัศจรรย์ต่าง ๆ ของพระองค์" สดุดี 145:5
See Sabrina's website here: https://thehopeofglory.org
See more articles and books by her also here: https://maranathamedia.com/author/view/sreedy
YouTube videos by Sabrina: https://www.youtube.com/@LivingintheChannel