ซาตานเป็นผู้ทำลาย แต่พระคริสต์ทรงเป็นผู้ช่วยฟื้นฟู

โพสต์ มิถุนายน 13, 2022 โดย Dejan Andov ใน พระลักษณะ

เอเลน ไวท์ ยืนยันสิ่งที่เราพบในพระคัมภีร์ นางกล่าวว่าในพระคัมภีร์ ได้เรียกซาตานว่าผู้ทำลาย

“Satan is the great enemy of God and man. He transforms himself through his agents into angels of light. In the Scriptures he is called a destroyer, an accuser of the brethren, a deceiver, a liar, a tormentor, and a murderer” (5T 137)

“ซาตานเป็นศัตรูตัวฉกาจของพระเจ้าและมนุษย์ มันเปลี่ยนตัวมันเองผ่านทูตสมุนของมันให้กลายเป็นทูตของแสงสว่าง ในพระคัมภีร์เรียกมันว่าผู้ทำลาย ผู้ที่กล่าวหาพี่น้อง ผู้หลอกลวง ผู้มุสา ตัวมาร และมือสังหาร” (5T 137)

“Satan is the destroyer” (Banner, March 1, 1905)

“ซาตานเป็นผู้ทำลาย” (แบนเนอร์ 1 มีนาคม 1905)

In contrast we see what Jesus says about destroying.

ในทางตรงกันข้าม เราจะเห็นสิ่งที่พระเยซูตรัสเกี่ยวกับการทำลาย

Luke 9:56  For the Son of man is not come to destroy men's lives, but to save them. 

Luke 9:56 เพราะว่าบุตรมนุษย์มิได้มาเพื่อทำลายชีวิตมนุษย์ แต่มาเพื่อช่วยเขาทั้งหลายให้รอด

In stooping to take upon Himself humanity, Christ revealed a character the opposite of the character of Satan. DA 25

ในการก้มลงรับเป็นสภาพมนุษย์ของพระคริสต์ พระองค์ได้ทรงเปิดเผยพระลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะของซาตาน DA 25

Satan is the destroyer, but Christ is the restorer. RH Nov 26, 1895

ซาตานเป็นผู้ทำลาย แต่พระคริสต์ทรงเป็นผู้ช่วยฟื้นฟู RH 26 พ.ย. 1895

If Christ revealed a character opposite to Satan, then is there any time he would reveal a character the same as Satan and destroy people? In how much of Christ’s work did he teach that He would destroy people?

ถ้าพระคริสต์ทรงเปิดเผยพระลักษณะที่ตรงกันข้ามกับซาตาน แล้วมีสักครั้งไหมที่พระองค์ทรงเปิดเผยลักษณะที่เหมือนกับซาตานและทรงทำลายประชากร พระคริสต์เคยทรงสอนว่าพระองค์จะทรงทำลายผู้คนไหม

He came to lift up man. It was provided that whosoever should believe in Christ as his personal Saviour should be saved. In all his works he taught men that it was his mission not to destroy men's lives, but to save them.  {ST, July 2, 1896 par. 3}  

พระองค์เสด็จมาเพื่อยกมนุษย์ ซึ่งได้ถูกจัดเตรียมให้กับผู้ที่เชื่อในพระคริสต์ในฐานะพระผู้ช่วยให้รอดของเขาควรได้รับความรอด ในทุกพันธกิจของพระองค์ พระองค์ได้ทรงสอนมนุษย์ว่าเป็นพันธกิจของพระองค์ที่มิได้มาเพื่อทำลายชีวิตมนุษย์ แต่มาเพื่อช่วยเขาทั้งหลายให้รอด {ST 2 กรกฎาคม 1896 ย่อหน้า 3}

In all of Christ’s works He taught men that it was not His mission to destroy. It was His mission to reveal the Father by saving, redeeming, and rescuing.

ในงานทั้งปวงของพระคริสต์ พระองค์ทรงสอนมนุษย์ว่าไม่ใช่พันธกิจของพระองค์ที่จะทำลายเขาทั้งหลาย ซึ่งเป็นงานของพระองค์ที่จะทรงเปิดเผยพระบิดาโดยการช่วยให้รอด การไถ่บาป และการช่วยชีวิต

Christ came to the world to seek and save the lost. When accused by the Pharisees of eating with publicans and sinners, He replied, "I am not come to call the [professedly] righteous, but sinners to repentance." He came to save, not to destroy. Souls are very precious in His sight; for by creation and by redemption they are His. MM 183

พระคริสต์เสด็จมาในโลกเพื่อเสาะหาและกอบกู้ผู้ที่หลงหาย เมื่อพวกฟาริสีกล่าวหาว่าพระองค์ทรงรับประทานอาหารร่วมกับคนเก็บภาษีและคนบาป พระองค์ตรัสตอบพวกเขาว่า "เรามิได้มาเพื่อจะเรียกคนชอบธรรม แต่มาเรียกคนบาปให้กลับใจเสียใหม่ พระองค์เสด็จมาเพื่อช่วยให้รอด มิใช่มาเพื่อทรงทำลาย มนุษย์มีค่ามากในสายพระเนตรของพระองค์ เพราะโดยการทรงสร้างและโดยค่าไถ่ชีวิตพวกเขาเป็นของพระองค์ MM 183

The Lord seeks to save, not to destroy. He delights in the rescue of sinners. "As I live, saith the Lord God, I have no pleasure in the death of the wicked." Ezekiel 33:11. By warnings and entreaties He calls the wayward to cease from their evil-doing and to turn to Him and live. He gives His chosen messengers a holy boldness, that those who hear may fear and be brought to repentance. PK 104,105

พระยาห์เวห์ทรงแสวงหาที่จะช่วยให้รอด มิใช่มาเพื่อทำลาย พระองค์ทรงพอใจในการช่วยคนบาป “พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสว่า เรามีชีวิตอยู่แน่นอนอย่างไร เราไม่พอใจในความตายของคนอธรรม” เอเสเคียล 33:11 ด้วยคำตักเตือนและคำวิงวอน พระองค์ทรงเรียกคนที่หัวแข็งให้เลิกกระทำชั่วและหันกลับมาหาพระองค์และดำเนินชีวิต พระองค์ทรงมอบความกล้าหาญอันบริสุทธิ์แก่ผู้รับใช้ของพระองค์ที่จะไปประกาศ เพื่อคนที่ได้ยินข่าวสารจะได้เกรงกลัวและกลับใจเสียใหม่ PK 104,105

It is not part of the Divine nature to destroy but to reconstruct.

ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของธรรมชาติของพระเจ้าเพื่อทรงทำลาย แต่เพื่อทรงสร้างใหม่

Redemption is part of the divine nature. It is the prerogative of God to have to reconstruct, not to destroy. The Son of God was given to die before the foundation of the world. The existence of sin is unexplainable; therefore not a soul knows what God is until he sees himself in the light reflected from the cross of Calvary, and detests himself as a sinner in the bitterness of his soul. TM 264, 265

การไถ่บาปเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติของพระเจ้า ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษของพระเจ้าที่จะสร้างใหม่ มิใช่มาเพื่อทำลาย พระบุตรของพระเจ้าได้ทรงสิ้นพระชนม์ก่อนการทรงสร้างโลกแล้ว การคงอยู่ของบาปนั้นให้คำอธิบายไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าพระเจ้าทรงเป็นใครจนกว่าเขาจะมองเห็นตัวของเขาเองในแสงสว่างที่สะท้อนจากกางเขนของเนินเขาที่พระเยซูถูกตรึง และเกลียดชังตัวของเขาเองในฐานะคนบาปในความขมขื่นแห่งจิตวิญญาณของเขา TM 264, 265

This same character is in the angels. They are not sent from heaven to destroy but to save.

ลักษณะเดียวกันนี้อยู่ในเหล่าทูตสวรรค์ พวกเขาไม่ได้ถูกส่งมาจากสวรรค์เพื่อมาทำลาย แต่มาเพื่อช่วยให้รอด

Angels are sent from the heavenly courts, not to destroy, but to watch over and guard imperiled souls, to save the lost, to bring the straying ones back to the fold. “I came not to condemn, but to save,” Christ declared. Have you, then, no pitying words to speak to the straying? Will you let them perish, or will you reach out to them a helping hand? —RH May 10, 1906.

ทูตสวรรค์ถูกส่งมาจากคฤหาสน์สรวงสวรรค์ มิใช่มาเพื่อทำลาย แต่มาเพื่อคอยคุ้มกันและปกป้องคนที่ตกอยู่ในอันตราย เพื่อมาช่วยผู้ที่หลงหาย เพื่อนำพาคนที่พลัดพรากกลับคืนสู่คอกแกะ พระคริสต์ทรงประกาศว่า เรามา มิใช่มาเพื่อประณาม แต่มาเพื่อช่วยให้รอด” แล้วเจ้าไม่มีคำพูดใดที่น่าสงสารที่จะพูดกับคนพลัดหลงหรือ เจ้าจะปล่อยให้พวกเขาพินาศหรือเจ้าจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือพวกเขา — RH 10 พฤษภาคม 1906

อ่านหนังสือทั้งเล่มได้ที่นี่:
https://fatheroflove-thailand.com/book/view/destroyer-thai