จงกลับมาหาพระเจ้าแห่งความรัก
จงกลับมาหาพระเจ้าแห่งความรัก
เมื่อมนุษย์เราล้มลงในความบาปเพราะว่าซาตานทำให้เราล้มลงในความบาปนั้น พระเจ้าได้พยายามเรียกเรากลับมาอยู่เสมอโดยที่พระองค์มีวิธีให้เรียกเรากลับมาแตกต่างออกไป บางคนแค่เรียกเบาๆก็กลับมา แต่บางคนจะต้องใช้พระสุรเสียงที่หนักแน่น ต้องทรงยอมให้เขาได้เจอกับสิ่งที่เขาเลือก ก่อนที่เขาจะเปิดใจรับพระองค์อีกครั้ง ทุกครั้งที่เราทำบาปพระเจ้าก็ไม่สามารถเข้ามาช่วยได้เพราะเราได้ปิดกั้นพระองค์จากการช่วยเหลือเรานั่นเอง “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรมจะทรงอภัยบาปของเราและชำระเราให้พ้นจากความอธรรมทั้งสิ้น” 1ยอห์น 1:9
โดยการที่เราปิดกั้นไม่ให้พระองค์เข้ามาช่วยเหลือเรานั้น พระเจ้าทรงรู้สึกเป็นทุกข์ใจอย่างมากที่ลูกของพระองค์ยังไม่ยอมกลับใจและกลับมาทางพระองค์โดยที่พระองค์ยังคาดหวังว่าสักวันหนึ่งเราจะกลับใจจริงๆ นี่เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามไป คือเขามักจะคิดว่าพระเจ้าคงไม่ปรารถนาจะช่วยเขา เพียงเพราะเขาทำผิดบาปต่อพระองค์ แต่ความจริงคือ พระเจ้าทรงรักคนบาปเหล่านั้นเหลือเกินที่เราจะรู้ได้ จงไปศึกษาให้เข้าใจความหมายของข้อความที่ว่า ‘เราประสงค์ความเมตตา ไม่ใช่เครื่องบูชา’ เพราะเราไม่ได้มาเพื่อเรียกคนชอบธรรม แต่มาเพื่อเรียกคนบาป” มัทธิว 9:13
ในขณะที่เราพยายามดิ้นรนในการทำสิ่งต่างๆ ตามใจปรารถนาของเรา เราก็จะค่อยๆถอยห่างจากทางของพระองค์ไปโดยที่เราไม่รู้ตัวและการที่เราไม่รู้ตัวนั้นเมื่อสะสมเป็นเวลานานๆมากก็ทำให้เราตกจากพระคุณพระเจ้าไปขอให้เราที่จะนึกถึงความรักที่พระเจ้ามีต่อเราโดยการตรึงที่กางเขนของพระเยซูคริสต์และเมื่อเราเจอภาระหนักเราควรจะไม่แบกมันไว้คนเดียวควรจะมองหาที่พึ่งและในที่นี้ที่พื้นที่ดีที่สุดก็คือองค์พระเยซูคริสต์พระเจ้าของเรา “บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนักจงมาหาเรา และเราจะให้ท่านพักสงบ” มัทธิว 11:28
อย่าถอยห่างจากผู้ทรงร้องเรียกหาเราด้วยความรักเพื่อไปหาสิ่งที่เราไม่รู้จะเกิดขึ้นในทางข้างหน้าหากปัญหาที่พบในชีวิตมันช่างหนักเกินกว่าจะรับไหว จงวางทุกสิ่งไว้ที่พระหัตถ์ของพระเจ้า และให้พระองค์เป็นผู้ทรงนำและช่วยเหลือเพื่อที่ว่าจะสามารถก้าวไปด้วยขอบคุณความรักของพระองค์อีกครั้ง 6 อย่ากระวนกระวายในเรื่องใดๆ เลย แต่จงทูลขอทุกสิ่งต่อพระเจ้าด้วยการอธิษฐานและการอ้อนวอนพร้อมกับการขอบพระคุณ 7 แล้วสันติสุขของพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจจะปกป้องความคิดจิตใจของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์ ฟิลิปปี 4:6-7