การทูลขอพระสัญญาของพระเจ้า
Read "Some Reflections on Claiming God's Promises" in the original English
“และพระเจ้าของข้าพเจ้าจะประทานทุกสิ่งที่จำเป็นแก่พวกท่านจากทรัพย์อันรุ่งโรจน์ของพระองค์ในพระเยซูคริสต์”
ฟีลิปปี 4:19
พระคัมภีร์ล้วนเต็มไปด้วยพระสัญญาอันล้ำค่าจากพระบิดาในสวรรค์ที่มอบให้เราเพื่อสนองความต้องการของเราในทุกๆวัน หลายปีที่ผ่านมา หลายครั้งที่ฉันได้ร้องทูลพระองค์ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
ฉันได้พบว่า ในช่วงเวลาของการทำพันธกิจของฉัน มีพระพรหลังไหลมาเป็นช่วงๆ ที่เรานั้นอาจจะได้รับ หากพวกเราเรียนรู้ที่จะทูลขอตามพระสัญญาในทางที่รอบคอบและมีความสุภาพ
ในสถานการณ์คุ้นเคยกับพวกเราทุกคน เราพบว่าตัวเองอยู่ในจุดที่ไม่มีทางออกที่เกิดขึ้นโดยไม่มีความเจ็บปวด ในขณะที่สถานการณ์เหล่านี้ทำให้เราเกิดความตึงเครียด ในเวลานี้เราจะได้เห็นว่าเราได้เชื่อในพระคำของพระเจ้าอย่างแท้จริงหรือไม่
ทุกครั้งที่เรารู้สึกหงุดหงิด รู้สึกโกรธ เจอการปฏิเสธ หรือ เราหมกมุ่นกับความเศร้า และนั่งคิดสงสารตนเอง นี่ละเป็นโอกาสที่จะเห็นว่าเราไม่ไว้วางใจพระเจ้าหรือพระสัญญาของพระองค์
ฉันมีข้อความในพระสัญญาที่สำคัญหลายประการ ในยามที่ฉันต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤติที่ราวกับเหตุการณ์ใน "ทะเลแดง" นี่คือตัวอย่างบางส่วน
“พระองค์จะทรงพิทักษ์ผู้มีใจแน่วแน่ไว้ในสวัสดิภาพที่สมบูรณ์ เพราะเขาวางใจในพระองค์” - อิสยาห์ 26:3
“ไม่มีการทดลองใดๆ เกิดขึ้นกับท่านทั้งหลาย นอกเหนือการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ พระเจ้าทรงซื่อสัตย์ พระองค์จะไม่ทรงให้พวกท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ และเมื่อถูกทดลอง พระองค์จะทรงให้มีทางออกด้วย เพื่อพวกท่านจะมีกำลังทนได้” - 1 โครินธ์ 10:13
“ข้าพเจ้าเผชิญ ได้ทุกอย่างโดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า” - ฟีลิปปี 4:13
“ เพราะว่าพระเจ้าไม่ได้ประทานใจที่ขลาดกลัวแก่เรา แต่ประทานใจที่ประกอบด้วยฤทธานุภาพ ความรัก และการบังคับตนเองแก่เรา” - 2 ทิโมธี 1:7
“ฉะนั้นความเชื่อเกิดขึ้นได้ก็เพราะการได้ยิน และการได้ยินเกิดขึ้นได้ก็เพราะการประกาศพระคริสต์” -โรม 10:17
ในเบื้องต้น ฉันนั่งอ่านพระสัญญาของพระเจ้า อ่านซ้ำๆหลายๆครั้งอยู่ภายในใจของฉัน
ฉันเตรียมตัวสำหรับการตัดสินใจ
ฉันถามกับตัวเองว่า "พระสัญญาเหล่านี้เป็นจริงหรือไม่?"
คำตอบนั้นขึ้นอยู่กับความมั่นใจของคุณในตัวพระบิดาในสวรรค์ ผู้ให้พระสัญญากับเรา เมื่อเผชิญหน้ากับคำถาม คุณต้องตัดสินใจและไม่ซ่อนอยู่ในเงามืดอีกต่อไป ถ้ามันยังยาก ฉันตั้งคำถามอีกครั้งล่ะ "คุณเชื่อพระสัญญาใช่หรือไม่?"
ฉันอาจจะถกเถียงภายในใจอยู่สักพัก ถ้าสถานการณ์นั้นรุนแรง แต่หลังจากนั้น ฉันก็กลับไปตกหลุมรักพระบิดาของฉัน และของประทานแห่งพระบุตรของพระองค์ ฉันคิดถึงทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทำเพื่อฉัน เพราะฉันเป็นลูกของพระบิดาผ่านทางพระเยซูฉันจะเชื่อว่าพระองค์จะไม่ละทิ้งฉัน
หลายครั้งที่เราต้องการคำตอบก่อนที่เราจะลุกขึ้นจากการอธิษฐาน แต่ความเชื่อที่แท้จริงคือการพักสงบอยู่ในความรักของพระบิดา แม้ว่าเราจะยังมองไม่เห็นทางออกก็ตาม
“ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่หวังไว้ เป็นความแน่ใจในสิ่งที่มองไม่เห็น” - ฮีบรู 11:1
หากเรามีทางออกของปัญหา ความเชื่อก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป แต่พระเจ้าดึงเรามาหาพระองค์ผ่านปัญหาของเรา
ฉันพบว่ากระบวนการนี้มีประโยชน์อย่างมากมาย ในการผ่านการทดลองใจต่างๆ
- การได้ยินพระวจนะ - โรม 10:17
- นำตัวเองไปสู่การตัดสินใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
- มองหาความรักของพระบิดาและพักอยู่ในการเป็นลูกที่รักของพระองค์
- วางใจในการดูแลและการจัดเตรียมหนทางของพระองค์ แม้คำตอบจะยังไม่ชัดเจน
ฉันหวังว่าความคิดเหล่านี้จะเป็นประโยชน์เมื่อคุณจัดการกับช่วงเวลาวิกฤต "ทะเลแดง" ของคุณ